เราใช้คุกกี้เพื่อทำให้ประสบการณ์ของคุณดีขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งใหม่ของ e-Privacy เราจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณในการตั้งค่าคุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติม
เจาะลึกนาฬิกาสายลับ เจมส์ บอนด์ 007 | Watch Talk EP.25
เจาะลึกนาฬิกาสายลับ เจมส์ บอนด์ 007 จากทุกภาค | Watch Talk EP.25
ดูวิดีโอ เจาะลึกนาฬิกาสายลับ เจมส์ บอนด์ 007 | Auction House
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
James Bond ตำนานสายลับรหัส 007 เป็นภาพยนตร์แนวสายลับดัดแปลงมาจากนวนิยาย ฉายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1962 โดยในภาพยนตร์ ตัวละครหลักก็คือ เจมส์ บอนด์ (James bond) ที่เป็นสายลับที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เขามีรสนิยมที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เสื้อผ้า การแต่งตัว รวมไปถึงการเลือกนาฬิกาที่ช่วยเสริมลุคให้กับเขาด้วย ซึ่งในครั้งนี้ Auction House จะพาทุกคนมาดูนาฬิกาที่เขาใส่ตั้งแต่ภาคแรก ๆ จนถึงภาคปัจจุบัน มาดูกันว่านาฬิกาแต่ละเรือนของเขาจะสะท้อนถึงยุคนั้น ๆ อย่างไรบ้าง
Sean Connery (1962) - Rolex Submariner Ref. 6538
ในปี 1962 ภาพยนตร์เรื่องแรกของรหัส 007 ก็คือ Dr. No นำแสดงโดย Sean Connery ซึ่งเขาได้สวมใส่นาฬิกา Rolex Submariner Ref. 6538 ถือเป็นความแปลกใหม่ให้กับวงการนาฬิกาเป็นอย่างมาก เนื่องจากในยุคนั้น ผู้คนจะนิยมสวมใส่ Dress Watch ที่มีความเรียบหรูเข้ากับชุดสูทที่มีความเนี้ยบ ฉะนั้นการใส่ Sport Watch กับสูทในชีวิตประจำวันจึงเป็นความแปลกใหม่และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ได้กลายเป็นนาฬิกาคู่ใจของ James bond มาอีกหลายต่อหลายภาค
Sean Connery (1965) - Modified Breitling New Top Time
ในปี 1965 นาฬิกา Breitling ได้ถูกนำมาดัดแปลงและใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากเพื่อใช้ในการทำภารกิจในภาพยนตร์ภาค Thunderball โดยหน้าปัดย่อยเป็นแบบผสานหรือ Geiger counter ที่เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ จนกระทั่งในที่สุดนาฬิกาเรือนจริงที่ James Bond สวมใส่ในภาพยนตร์ ได้ถูกนำมาประมูลเมื่อปี 2013 และทำราคาประมูลได้สูงถึง 160,175 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 5 ล้านบาท จึงกลายเป็นหนึ่งในนาฬิกา Breitling วินเทจที่แพงที่สุดเท่าที่เคยขายมาในประวัติศาสตร์
George Lazenby (1969) - Rolex Chronograph Ref. 6238
ในภาพยนตร์ภาค On Her Majesty's Secret Service ในปี 1969 นักแสดง George Lazenby ได้สวมใส่นาฬิกา 2 เรือน ซึ่งเรือนแรกก็คือ Rolex Chronograph ความพิเศษของนาฬิกาอยู่ที่การที่ทีมงานได้ซื้อนาฬิกาเรือนนี้จากร้านค้าทางการของแบรนด์ และได้มีการดัดแปลงเข็มโครโนกราฟให้มีสีแดง ซึ่งคาดว่า Rolex Chronograph เรือนนี้จะเป็นเรือนเดียวในโลกที่มีเข็มสีแดงอันโดดเด่น ซึ่งเข็มสีแดงนี้เองที่ถูกมานำมาใช้เป็นเข็มทิศเพื่อประกอบฉาก
Roger Moore’s (1972 - 1985) - Quartz Era
ในภาพยนตร์ภาค Live and Let Die ปี 1972 นาฬิกาได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้เจมส์ บอนด์ทำภารกิจให้สำเร็จ อย่างเช่น Rolex Submariner ที่ขอบหน้าปัดสามารถหมุนแล้วเปลี่ยนเป็นใบเลื่อยได้ เพื่อตัดเชือกที่ผูกเขาเอาไว้ ขณะเดียวกันนาฬิกาเรือนนี้ก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็นแม่เหล็กได้ นอกจากนี้แล้วในภาพยนตร์ก็ยังใช้นาฬิกา Hamilton Pulsar ที่มีหน้าปัดการบอกเวลาแบบดิจิทัลด้วย ซึ่งทำให้เห็นถึงวิวัฒนาการของวงการนาฬิกาที่เปลี่ยนจากการบอกเวลาแบบอนาล็อกไปสู่ดิจิทัล
Roger Moore’s (1977) - Seiko
ในภาพยนตร์ภาค The Spy Who Loved Me ในปี 1977 เจมส์ บอนด์ก็ได้ใส่นาฬิกา Seiko 0674 LC ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กบนข้อมือได้และสามารถบันทึกข้อมูลได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้เป็นที่จุดชนวนระเบิดได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มในการใช้งานเลยทีเดียว
Roger Moore’s (1981) - Seiko H357 Duo Display
ในภาค For Your Eyes Only นาฬิกาอนาล็อกได้เข้ามามีบทบาทอีกครั้ง เนื่องจากเจมส์ บอนด์ ได้สวมใส่นาฬิกา Seiko แบบเข็มดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้แล้วก็ยังได้ใส่ Seiko 7549-7009 เป็นนาฬิกาอนาล็อกเช่นเดียวกันที่ใช้ระบบกลไกควอตซ์
Octopussy (1983) - Seiko TV Watch
ในปี 1983 ภาค Octopussy นักแสดงเจมส์ บอนด์ ก็ได้ใส่นาฬิกา Seiko TV Watch ที่เป็นโทรทัศน์สีที่เล็กที่สุดในโลก และได้รับ Guinness World Records ในครั้งนี้ด้วย
Timothy Dalton (1987) - TAG Heuer และ Rolex
ในปี 1987 ภาคของ The Living Daylights ซึ่งนาฬิกาได้กลับไปเป็นหนึ่งในเครื่องประดับเพื่อเสริมลุคของ เจมส์ บอนด์ อีกครั้ง เหมือนในยุคแรกเริ่ม เนื่องจากนาฬิกาไม่ได้มีความพิเศษในการช่วยทำภารกิจต่าง ๆ เหมือนภาคอื่น ๆ ที่ผ่านมา เป็นเพียงเครื่องประดับเสริมลุคให้ดูดีขึ้นเท่านั้น
Pierce Brosnan (1995) - Omega Seamaster Professional 300M
ภาพยนตร์ภาค Goldeneye ปี 1995 ซึ่งในภาคนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการที่ Omega เข้ามาเป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการของเจมส์ บอนด์ และเขาได้ใส่นาฬิกา Omega Seamaster Professional 300M ที่ได้กลายเป็นรุ่นยอดนิยมของนักสะสมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและเขาก็ใส่นาฬิการุ่นนี้ไปจนถึงภาค Die Another Day 007 ในปี 2002 ซึ่งในยุคนี้นาฬิกาก็ได้กลับมามีบทบาทสำคัญในการช่วยภารกิจของเจมส์ บอนด์ อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การที่เม็ดมะยมถูกเปลี่ยนให้เป็นที่ไว้ยึดและโหนตัว ไปจนถึงการมีเลเซอร์ยิงออกมาจากนาฬิกาเพื่อให้สามารถตัดวัสดุต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนจากการใช้นาฬิการะบบกลไกควอตซ์มาเป็นกลไกจักรกลที่แสนคลาสสิกด้วย
Daniel Craig (2006) - Omega Seamaster Professional 300M
ในภาค Casino Royale ปี 2006 นาฬิกาที่ถูกนำมาใช้ในฉากก็ยังคงเป็น Omega Seamaster Professional 300M และมีอีกหนึ่งรุ่นที่เพิ่มเข้ามา นั่นก็คือ Omega Planet Ocean 600M ซึ่งนาฬิกาในยุคนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนจากการใช้ฟังก์ชันที่เกินจริง มาเป็นการใช้งานฟังก์ชันตามความเป็นจริงของนาฬิกา เช่น ในภาค Quantum of Solace ปี 2008 ได้มีการใส่นาฬิกาดำน้ำลงในน้ำจริง ๆ ตามการใช้งานจริง และในปี 2012 ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการผลิตนาฬิกาเพื่อเจมส์ บอนด์โดยเฉพาะ โดยยังคงมีการใช้นาฬิการุ่น Omega Planet Ocean 600M แต่เป็นตัวเรือนที่ทำจากไทเทเนียม ในขณะที่เรือนทั่วไปวางขายจะเป็นวัสดุสตีล
Daniel Craig (2012) Omega Planet Ocean 600M
ในภาค Skyfall ปี 2012 เจมส์ บอนด์ ยังคงสวม Omega Planet Ocean 600M แต่เป็นจุดเริ่มต้นในการผลิตนาฬิกาเพื่อเจมส์ บอนด์โดยเฉพาะ ตัวเรือนทำจากไทเทเนียม ในขณะที่เรือนทั่วไปวางขายจะเป็นวัสดุสตีล มีความสามารถในการกันน้ำลึก 600 เมตร และได้มีการปิดประมูลไปในราคาสูงถึง 8 ล้านบาท
Daniel Craig (2015) - Omega Seamaster 300 Spectre
ในภาค Spectre 007 ปี 2015 นี้ เป็นการใช้นาฬิกาที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเจมส์ บอนด์ โดยเฉพาะเลย นั่นก็คือ Omega Seamaster 300 Spectre ที่มีชื่อเดียวกับภาคของภาพยนตร์เลย โดยรุ่นนี้ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 7007 เรือนเท่านั้น
Daniel Craig (2021) - Omega Seamaster Diver 007 Edition
ภาค No Time to Die ปีล่าสุด 2021 โดย Daniel Craig ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบนาฬิการุ่นล่าสุดของ Omega ซึ่งเขาต้องการนาฬิกาที่มีน้ำหนักเบาและมีความสมบุกสมบันให้เหมาะกับคาแรกเตอร์ของ เจมส์ บอนด์ รวมไปถึงต้องการให้นาฬิกาดูมีความวินเทจด้วย จนในที่สุดทางแบรนด์ก็รังสรรค์นาฬิกานี้ออกมาเป็น Omega Seamaster Diver 007 Edition เพื่อภาพยนตร์ ภาค No Time to Die โดยเฉพาะ
อย่าลืมกด ติดตาม เพื่อรับชมวิดีโอที่น่าสนใจก่อนใคร
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Grand Seiko มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่
ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่
Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck Muller ได้ที่นี่RELATED POSTS
Our recent work